Impactenterprise

น้ำใสใช่ว่าสะอาด – กรองยังไงให้น้ำบริสุทธิ์จริง | ชุดกรองน้ำแล็บ

สารบัญ

น้ำใสใช่ว่าสะอาด

น้ำใสใช่ว่าสะอาด: รู้ทันปัญหาน้ำปนเปื้อนที่มองไม่เห็น

น้ำที่เราดื่มหรือใช้งานในชีวิตประจำวัน มักถูกตัดสินจากสายตาว่าใส สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรก แต่น้ำใสไม่ได้หมายความว่าสะอาดปลอดภัยเสมอไป ในความเป็นจริงยังมีสารปนเปื้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือส่งผลกระทบต่อผลการทดลองในห้องปฏิบัติการได้

ปัญหาของน้ำใสที่ดูเหมือนสะอาด

แม้น้ำจะใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ก็อาจแฝงไปด้วยสารปนเปื้อนต่างๆ เช่น:

  • แบคทีเรียและไวรัส เช่น E. coli, Salmonella หรือ Coliform ซึ่งก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหารและอื่นๆ
  • โลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม อาจส่งผลต่อระบบประสาทและการเจริญเติบโตของร่างกาย
  • สารอินทรีย์ เช่น สาร VOC (Volatile Organic Compounds) ซึ่งอาจทำลายสุขภาพในระยะยาว
  • สารเคมีทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเคมี ซึ่งอาจสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดมะเร็ง
  • Endotoxin และ TOC (Total Organic Carbon) ซึ่งสำคัญมากในงานวิเคราะห์ในห้องแล็บ หากมีค่าสูงจะส่งผลให้ผลวิเคราะห์ผิดพลาด

ทำไมต้องใช้น้ำบริสุทธิ์ในห้องปฏิบัติการ?

ในห้องแล็บ น้ำบริสุทธิ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อความถูกต้องแม่นยำของผลการทดลอง โดยน้ำบริสุทธิ์ที่ใช้ในแล็บแบ่งเป็นหลายระดับ เช่น:

  • น้ำ RO (Reverse Osmosis): ใช้ระบบกรองแบบรีเวิร์สออสโมซิส ซึ่งกรองอนุภาคได้ถึงระดับโมเลกุล เหมาะกับการเตรียมน้ำสำหรับงานพื้นฐานหรือใช้ในงานล้างเครื่องมือแล็บ
  • DI Water (Deionized Water): น้ำปราศจากไอออน ใช้สำหรับงานที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง เช่น งานวิเคราะห์ทางเคมี หรือเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีความไวต่อไอออน
  • น้ำ UF (Ultrafiltration): ใช้เมมเบรนชนิดพิเศษที่กรองแบคทีเรีย ไวรัส และสารแขวนลอยขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานที่ต้องปลอดเชื้อ
  • น้ำ UV (Ultraviolet sterilization): ระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV ทำลายดีเอ็นเอของแบคทีเรียและไวรัส ใช้ร่วมกับระบบอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค

เลือกระบบกรองน้ำที่เหมาะสม

การเลือกระบบกรองน้ำขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ตัวอย่างเช่น:

  • น้ำดื่มและน้ำใช้ทั่วไป: ใช้ระบบ RO หรือระบบ UV เพื่อกรองสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อโรค
  • ห้องปฏิบัติการทางเคมี: จำเป็นต้องใช้น้ำ DI หรือ UF ที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้า (Resistivity) สูงกว่า 18.2 MΩ·cm และค่า TOC ต่ำกว่า 10 ppb
  • งานชีววิทยาและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ: ต้องใช้น้ำที่ผ่านการกรองแบบ UF หรือ UV ร่วมกับ DI เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำสะอาด ปลอดเชื้อ และไม่มีสารอินทรีย์ปนเปื้อน

น้ำที่ใสไม่ได้การันตีว่าจะสะอาดเสมอไป การตรวจสอบและเลือกใช้ระบบกรองน้ำที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคประจำวัน หรือการใช้งานในห้องปฏิบัติการที่ต้องการความแม่นยำสูง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของงานในระยะยาว

แหล่งอ้างอิง

ช่องทางติดต่อสั่งซื้อ

Share:

Scroll to Top